เมื่อระบบไฟฟ้ามีค่า Power Factor (P.F) ต่ำจะส่งผลให้ความสามารถในการจ่ายไฟฟ้า (capacity) ของ
หม้อเเปลงลดลงเเละถ้าความสามารถในการจ่ายไฟฟ้าให้กับโหลดของหม้อเเปลงใกล้เต็มเเล้วก็จะทำให้ไม่สามารถ
จ่ายไฟฟ้าให้กับโหลดไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นได้เเม้ว่ากำลังไฟฟ้า (kW) ที่ใช้อยู่จะยังไม่เต็มก็ตาม
นอกจากนี้ในกรณีที่ผู้ใช้ไฟฟ้าใช้สายไฟยาวมากก็จะทำให้เกิดกระเเสไฟฟ้าไหลในสายไฟมีค่าสูงขึ้นเเละ
ความร้อนในสายเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดค่าสูญเสีย (losses) ตามขนาดของกระเเสยกกำลังสองเเละที่สำคัญผู้ใช้
ไฟฟ้าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มให้กับการไฟฟ้าคือค่า reactive power (kVAR charge) ในส่วนที่ต่ำกว่า
มาตรฐาน 0.85 อีกด้วย
ดังนั้นเพื่อควบคุมค่า P.F. ในโรงงานไม่ให้ต่ำกว่า 0.85 จึงต้องมีการติดตั้ง Capacitor Bank มีขนาดไม่
น้อยกว่าหรือเท่ากับ 30% ของขนาดหม้อเเปลงไฟฟ้าเเละต้องสัมพันธ์กับลักษณะโหลดทางไฟฟ้าที่ใช้อยู่ คือ
- ถ้าเป็น lnductive load เช่น induction motor ขนาดของ Capacitor Bank อาจจะต้องเพิ่มขึ้น
- ถ้าเป็น Resistive load เช่น เครื่องทำความร้อนขนาดของ Capacitor Bank อาจจะต้องลดลง
หน้าที่หลักของ Capacitor Bank
1. ปรับปรุงเพาเวอร์เเฟคเตอร์โดยการจ่ายกำลังไฟฟ้ารีเเอคทีฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น มอเตอร์ เครื่องทำ
ความร้อน เครื่องเชื่อมไฟฟ้า เป็นต้น
2. เเก้ปัญหาฮาร์โมนิกส์โดยการติดตั้งคาปาซิเตอร์อนุกรมกับรีเเอคเตอร์ซึ่งเรียกรวมกันว่า ฟิลเตอร์เเบงค์
(Filter Bank)
3. เเก้ปัญหาไฟกระพริบ ไฟกระเพื่อมโดยการใช้ไทริสเตอร์ (Thyrister) ในการตัดต่อคาปาซิเตอร์ทำให้สามารถ
จ่ายไฟฟ้ารีเเอคทีฟได้อย่างรวดเร็ว
ข้อดีของ Capacitor Bank ต่อระบบไฟฟ้า
1. ช่วยลดค่าปรับจากการไฟฟ้าเนื่องจากค่า Power Factor ต่ำกว่า 0.85
กรณีที่ระบบไฟฟ้าของผู้ใช้มีค่า P.F. ต่ำการไฟฟ้าจะต้องรับภาระในการจ่าย reactive power เป็นจำ
นวนมากต้องใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นรวมทั้งทรัพยากรที่มากขึ้นเพื่อที่จะสามารถผลิตกำลังไฟฟ้า
ทั้งในส่วน Active เเละ Reactive Power ตามความต้องการของผู้ใช้เเต่ที่จริงเเล้ว reactive power
ผู้ใช้สามารถสร้างเองได้โดยใช้ capacitor ดังนั้นการไฟฟ้าจึงบอกกฎเพื่อควบคุม P.F. ของโรงงานต่างๆ
2. ช่วยลดโหลดข้องหม้อแปลง
เมื่อผู้ใช้ไฟฟ้ามีเพิ่มปริมาณโหลดขึ้นเรื่อยๆกับหม้อเเปลงตัวเดิมจะส่งผลให้หม้อเเปลงต้องจ่ายกระเเสเกิน
(Overload) ทางเเก้ไขวิธีหนึ่งคือติดตั้งหม้อเเปลงต้องรับภาระจ่ายค่า Reactive Power เองทั้งหมดถ้ามีการ
ติดตั้ง Capacitor Bank ก็จะช่วยรับภาระในส่วนนี้เเทนทำให้หม้อเเปลงตัวนั้นมีกำลังเหลือเฟือที่จะจ่ายให้กับโหลด
ส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมได้
3. ช่วยลดค่าไฟฟ้าที่สูญเสียไปในรูปของความร้อนในสายไฟเเละหม้อเเปลง
การติดตั้ง Capacitor Bank จะช่วยลดกำลังสูญเสียในสายไฟเเละหม้อเเปลงไฟฟ้า จึงเป็นการประหยัด
พลังงานอีกทั้งยังลดความร้อนที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้เเต่ว่าในประเทศไทยนิยมติดตั้งตู้ Capacitor -
Bank ติดกับตู้ MDB หรือก็คือใกล้กับหม้อเเปลงมากจึงทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ในการช่วยลดประมาณกระเเส
ไฟฟ้าที่ไหลในระบบไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน